Skip to main content

หน้าหลัก

การประกันสุขภาพและภาวะสังคมผู้สูงอายุในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี การแถลงข่าว ณ กระทรวงสาธารณสุขสหพันธ์ ฯ กรุงเบอร์ลิน 14 ธ.ค. 53

                  นาย  Stefan Kapferer  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (State Secretary of the Federal Ministry of Health)  ได้จัดแถลงข่าวให้แก่คณะทูตานุทูตต่างประเทศ ณ  กระทรวงสาธารณสุข  สหพันธ์ฯ  เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553  ฝ่ายแรงงานฯ ขอสรุปสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงาน  ดังนี้

                  1.  สหพันธ์ฯ  กำลังจะขึ้นอัตราเบี้ยประกันสุขภาพของคนเยอรมันในปี 2011  จากร้อยละ 14.9  เป็นร้อยละ 15.5  ทั้งนี้  เนื่องจากสหพันธ์ฯ กำลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณด้านสาธารณสุข  และโครงสร้างสังคมในสหพันธ์ฯ  กำลังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุ  โดยผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ  คน เกษียณอายุเพิ่มมากขึ้น  แต่คนเกิดใหม่มีน้อยลง และคนหนุ่มสาวที่จะทำงานก็น้อยลงเช่นเดียวกัน  รัฐต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลคนสูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตราเบี้ยประกันสุขภาพให้มากขึ้น  เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปได้ต่อไป  ทั้งนี้จะเน้นการปฏิรูประบบประกันสุขภาพให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น  กล่าวคือ  บริษัทประกันต่าง ๆ สามารถเสนออัตราเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน  เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าต้องการจ่ายเบี้ยประกันมากหรือ น้อยโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์มากน้อยตามอัตราเบี้ยประกันที่จ่าย  ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท

                   2.  จากแนวโน้มที่ผู้สูงอายุจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทำให้มีการเล็งเห็นความสำคัญของอาชีพและงานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ  ซึ่งในปัจจุบันงานดูแลผู้สูงอายุไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากเงินเดือน ไม่สูง  ลักษณะของงานและภาพลักษณ์ไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนเยอรมัน  นาย  Kapferer  กล่าวว่า  กระทรวงแรงงานสหพันธ์ฯ  ก็มีความเห็นเช่นกันว่า  ควรนำเข้าแรงงานจากต่างชาติเข้ามาเพื่อเข้ามาทำงานในสาขาที่ขาดแคลน  ทั้งนี้ในปี 2011  แรงงานจากกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกจะสามารถเข้ามาทำงานในสหพันธ์ฯ ได้โดยเสรี  ก็คงต้องลองดูแนวโน้มสถานการณ์ว่าแรงงานจากประเทศเหล่านี้จะเข้ามาอุดช่อง ว่างได้มากน้อยเพียงใด  สำหรับการนำแรงงานต่างชาตินอกสหภาพยุโรปเข้ามาทำงานนั้น  คงเป็นไปได้ยากในปัจจุบัน  เพราะมีการกำหนดเป็นกฎหมายสหภาพยุโรป  ถ้ามีการแก้ไขต้องเป็นการดำเนินการในระดับนโยบายและใช้เวลานาน

                   3.  ปี 2011  กระทรวงสาธารณสุข จะให้ความสำคัญกับ 2 ประเด็น  คือ  การปฏิรูปการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในสหพันธ์ฯ  และการจัดการด้านสาธารณสุขในพื้นที่ชนบทในสหพันธ์ฯ เป็นหลัก


469
TOP