ข่าวแรงงานลำดับที่ 69

ฝ่ายแรงงาน ประจำ สอท. ณ กรุงเบอร์ลิน: เยอรมนีออกมาตรการใหม่เพื่อป้องกันมิให้พลเมืองจากอียูแอบอ้างใช้สิทธิจากระบบสวัสดิการสังคม เยอรมนีประกาศมาตรการใหม่เพื่อป้องกันมิให้พลเมืองจากอียูแอบอ้างใช้สิทธิจากระบบสวัสดิการสังคมโดยขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่ระบุให้ส่งตัวพลเมืองจากอียูซึ่งแอบอ้างใช้สิทธิขอรับสิทธิประโยชน์จากระบบสวัสดิการสังคมของเยอรมนีกลับประเทศและห้ามมิให้เดินทางกลับเข้ามาในเยอรมนีเป็นการชั่วคราว แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน ร่างกฎหมายนี้ระบุให้พลเมืองจากประเทศอียูที่พำนักในเยอรมนีต้องหางานทำภายในหกเดือนภายหลังเดินทางมาถึงเยอรมนี และคนต่างชาติที่สมัครขอรับสิทธิประโยชน์สำหรับบุตรจะต้องแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อป้องกันมิให้มีการแจ้งเท็จเช่น การขอรับเบี้ยเลี้ยงสำหรับบุตรหลายรายการเกินจริง

อย่างไรก็ตามนาย Thomas de Maiziere รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคอนุรักษ์นิยมเน้นว่า เยอรมนีไม่ได้จำกัดการเคลื่อนย้ายเสรีของบุคคลภายในอียูซึ่งเป็นหลักการสำคัญของสหภาพที่มีสมาชิกถึง 28 ประเทศ เยอรมนีได้เปิดตลาดแรงงานให้พลเมืองจากบุลกาเรียและโรมาเนียซึ่งเข้าร่วมอียูมาตั้งแต่ปี 2550 เข้ามาทำงานตั้งแต่ต้นปี 2557 ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนใหญ่พักอาศัยหนาแน่นใน เบอร์ลิน แฟรงค์เฟิร์ต มิวนิค และดุยส์บวร์ก และหนังสือพิมพ์ได้เสนอหัวข้อข่าวด้านลบว่าครอบครัวอพยพเหล่านี้มักมีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจน ทั้งนี้ รัฐบาลสหพันธ์จะได้ใช้จ่ายเงินกว่า 200 ล้านอียูในช่วงหลายปีที่จะถึงนี้เพื่อช่วยเหลือเมืองซึ่งมีผู้อพยพจากอียูเข้าไปพำนักมากกว่าปกติในการจัดที่พักอาศัยและเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งนี้นาง Andrea Nahles รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมเน้นว่าผู้เดินทางเข้ามาในเยอรมนีรายใหม่จากประเทศอียูตะวันออกนั้นเป็นแรงงานมีฝีมือ ส่วนใหญ่เป็นแพทย์ที่ต้องการเข้ามาทำงานเพราะเยอรมนีมีรายได้ที่ดีกว่า แม้ว่าจำนวนประชากรทั้งหมดของบัลแกเรียและโรมาเนียที่อาศัยในเยอรมนีได้เพิ่มขึ้นจาก 35,000 คนในปี 2547 เป็น 181,000 คนในปี 2555 แต่ทั้งนาย Maiziere และนาง Nahles กล่าวว่าสถานการณ์การเคลื่อนย้ายถิ่นของความยากจน (Poverty Migration) นั้นยังมิได้กระจายเป็นวงกว้าง

ในขณะที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามาตรการใหม่นี้เป็นเรื่องประชานิยมและรัฐบาลควรหยุดต่อสู้กับปัญหาที่ยังมิได้เกิดขึ้น ในทางกลับกันแม้จะมีการเพิ่มความเข้มงวดของระเบียบในการจัดการกับผู้ย้ายถิ่น แต่รัฐบาลสหพันธ์ฯ จะเสนอกฎหมายใหม่เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ขอลี้ภัยในระดับที่สามารถดำรงชีพได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาเมื่อปีที่แล้วที่ว่ารัฐบาลมิได้กระทำการอย่างเพียงพอในการดูแลผู้ลี้ภัย ซึ่งนับเป็นการเพิ่มการสนับสนุนผู้ขอลี้ภัยเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการผ่านกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ขอลี้ภัยเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ผู้ขอลี้ภัยที่เข้ามาในเยอรมนีเกิน 18 เดือนและผู้ไม่สามารถกลับประเทศตนได้จะถูกส่งเข้าสู่ระบบการประกันสังคมแบบทั่วไปโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าระดับปกติของการช่วยเหลือทางสังคมภายหลัง 15 เดือนแทนที่จะต้องคอยเป็นเวลา สี่ปีเหมือนกรณีที่ผ่านมา ทั้งนี้รัฐบาลเยอรมนียังคาดหวังที่จะใช้มาตรการเพื่อปรับปรุงการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ขอลี้ภัยในอนาคตอันใกล้ด้วย ที่มา: หนังสือพิมพ์เดอะโลคอล ฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2557

————————————–

ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน

15 กันยายน 2557