Skip to main content

หน้าหลัก

ฝ่ายแรงงาน ประจำ สอท.ณ กรุงเบอร์ลิน สหภาพยุโรป : แนวทางแก้ไขปัญหาการว่างงานของเยาวชน

สถานการณ์ด้านแรงงานในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

เอกสารหมายเลข 7

ฝ่ายแรงงานฯ

25 ก.ย. 57

สหภาพยุโรป : แนวทางแก้ไขปัญหาการว่างงานของเยาวชน

เมื่อเดือนเมษายน 2556 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ได้ให้การรับรองหลักการว่าด้วย Youth Guarantee ซึ่งเป็นแผนงานใหม่ที่มุ่งแก้ไขปัญหาการว่างงานของเยาวชนด้วยการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่า เยาวชนหนุ่มสาวที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีทุกคน ไม่ว่าจะลงทะเบียนไว้กับหน่วยให้บริการจัดหางานหรือไม่ก็ตาม จะได้รับข้อเสนอที่ดีมีคุณภาพและเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่ออกจากระบบการศึกษาหรือตั้งแต่ว่างงาน ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวควรอยู่ในรูปของงาน การฝึกงาน การฝึกอบรม หรือการศึกษาต่อเนื่องและควรเป็นข้อเสนอที่ปรับให้ตรงกับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล

อียูและปัญหาการว่างงาน

  • ณ เดือนกรกฏาคม 2557 มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปีในอียู-28 ว่างงานกว่า 5 ล้านคน
  • สถิติดังกล่าวคิดเป็น 21.7เปอร์เซนต์ (23.2 เปอร์เซนต์ในเขตยูโร) และเยาวชนยุโรปในตลาดแรงงาน       จำนวนมากกว่าหนึ่งในห้าไม่สามารถหางานทำได้ โดยในกรีซและสเปนมีอัตราส่วนหนึ่งในสอง ซึ่ง หมายความว่าผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปีในยุโรปประมาณ 10 เปอร์เซนต์เป็นผู้ว่างงาน
  • เยาวชนยุโรปอายุระหว่าง 15 -24 ปี ประมาณ 7.5 ล้านคน ไม่ได้รับการจ้างงาน ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา และไม่ได้รับการฝึกอบรม (not employed, not in education and not in training : NEETs)
  • ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา อัตราการลดลงของการมีงานทำโดยรวมของเยาวชนมีมากกว่าผู้ใหญ่สามเท่า
  • ช่องว่างของประเทศที่มีอัตราการว่างงานเยาวชนสูงสุดและต่ำสุดนั้นสูงมาก โดยประเทศสมาชิกที่มี อัตราการว่างงานต่ำสุด เยอรมนี (7.8 เปอร์เซนต์ ณ เดือนกรกฎาคม 2557) มีช่องว่างห่างจากประเทศ สมาชิกที่มีอัตราว่างงานสูงสุด สเปน (53.8 เปอร์เซนต์ ณ เดือนกรกฎาคม 2557) เกือบ 50 จุด (percentage points) ตามด้วยกรีซ (53.1 เปอร์เซนต์ ณ เดือนพฤษภาคม 2557) โครเอเชีย (41.5 เปอร์เซนต์) โปรตุเกส (35.5เปอร์เซนต์) และไซปรัส (35.1 เปอร์เซนต์ ณ มิถุนายน 2557)

การว่างงานของเยาวชนและตัวชี้วัด NEETs เป็นส่วนหนึ่งของ Scoreboard ตัวชี้วัดหลักด้านการว่างงานและสังคมซึ่งแสดงให้เห็นการมีงานทำส่วนใหญ่และความไม่สมดุลย์ทางสังคมภายในอียู โดยได้มีการพิมพ์ Scoreboard ครั้งแรกไว้ในรายงานร่วมเรื่องการมีงานทำ 2557 (Joint Employment Report 2014) ที่คณะกรรมาธิการและคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปได้รับรองร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย 5 ตัวชี้วัดหลัก และเป็นพื้นฐานข้อเสนอของคณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปที่จำเป็นต่อการส่งเสริมการสร้างงาน การเพิ่มความยืดหยุ่นของตลาดแรงงาน และการแก้ไขความยากจนและขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม (social inclusion)  

แผนงาน Youth Guarantee

Youth Guarantee คือแนวทางใหม่ในการแก้ไขปัญหาการว่างงานของเยาวชนด้วยการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าเยาวชนทุกคน ไม่ว่าจะลงทะเบียนไว้กับหน่วยบริการจัดหางานหรือไม่ก็ตาม จะได้รับข้อเสนองานที่ดีมีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรม เหมาะสมกับการศึกษา ทักษะ และประสบการณ์ของแต่ละคน หรือได้รับการศึกษา ฝึกฝีมือ หรือประสบการณ์ตามจำเป็นต่อการหางานทำในอนาคตในรูปแบบของการฝึกงาน การฝึกอบรม หรือการศึกษาต่อเนื่องภายในสี่เดือนนับตั้งแต่ได้ออกจากระบบการศึกษาหรือกลายเป็นผู้ว่างงาน

Youth Guarantee คือการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อปรับปรุงการเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนไปสู่การทำงานและเป็นมาตรการสนับสนุนงานสำหรับเยาวชน โดยเป็นแนวทางที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความสำเร็จในออสเตรียและฟินแลนด์ที่แสดงให้เห็นว่าการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนไปสู่การทำงานนั้นได้ผล ทั้งนี้ Youth Guarantee ของฟินแลนด์สามารถแสดงให้เห็นถึงอัตราการว่างงานในหมู่เยาวชนที่ลดลงได้อย่างชัดเจน โดยมีผู้ประสบความสำเร็จในการมีงานทำ ฝึกงาน และฝึกอบรม หรือศึกษาต่อถึง 83.5 เปอร์เซนต์ ภายในสามเดือนนับตั้งแต่ได้ลงทะเบียน

คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU’s Council of Ministers ) ได้รับรองข้อแนะ Youth Guarantee เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 บนพื้นฐานข้อเสนอแนะที่คณะกรรมาธิการได้ให้ไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2554 และคณะมนตรียุโรป (European Council) ได้ลงนามรับรองในเดือนมิถุนายน 2556 อีกทั้ง G20 ก็เห็นว่า Youth Guarantee เป็นเสมือนการปฏิรูปขนานใหญ่สำหรับการจ้างงานเยาวชน และในการประชุมของรัฐมนตรีแรงงาน G20 ที่กรุงเมลเบิร์นเมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2557 ได้มีการตัดสินใจว่าจะต้องดำเนินยุทธศาสตร์ของ G20 ให้มากยิ่งขึ้นในเรื่อง Youth Guarantee และต้องปฏิบัติการเพื่อให้เยาวชนได้รับการศึกษา ฝึกอบรม และมีงานทำอย่างเป็นรูปธรรม

Youth Guarantee คือการปฏิรูปโครงสร้าง สำหรับประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ การดำเนินแผน Youth Guarantee นั้นจำเป็นจะต้องปฏิรูปโครงสร้างเชิงลึกด้านระบบการฝึกอบรม การหางาน และการศึกษาเพื่อให้สามารถปรับปรุงการเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนไปสู่การทำงานและเพิ่มความสามารถในการมีทำงานของเยาวชนอย่างเห็นผลซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำแล้วเสร็จได้ในเพียงวันเดียว และสำหรับสมาชิกอียูบางประเทศ ก็มีความจำเป็นต้องปฏิรูปบริการจัดหางานของรัฐเพื่อประกันว่าเยาวชนจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับงาน การศึกษาและโอกาสในการฝึกอบรมอันสัมพันธ์กับสถานะของเยาวชนแต่ละคน เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ได้รับข้อเสนอที่ตรงกับคุณสมบัติอย่างเป็นรูปธรรมภายในสี่เดือน ซึ่งการที่คณะกรรมาธิการได้ให้ข้อเสนอเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 และให้การรับรองข้อเสนอดังกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ว่าจะช่วยเหลือให้บริการจัดหางานของรัฐเกิดประสิทธิผลสูงสุดด้วยการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดขึ้นนั้นนับว่ามีบทบาทสำคัญยิ่งในเรื่องนี้

นอกจากการปฏิรูปบริการจัดหางานของรัฐแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปโครงสร้างในส่วนของการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณของการฝึกงาน อาชีวศึกษาและโอกาสที่จะได้รับการฝึกอบรม ซึ่งประเทศสมาชิกจะต้องทำให้มั่นใจว่าได้ดำเนินการเพื่อให้เยาวชนมีทักษะตรงตามที่นายจ้างต้องการ

อนึ่ง ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ควรพัฒนากลไกเพื่อจำแนกเยาวชนกลุ่ม NEETs และดำเนินการให้เยาวชนที่อยู่ห่างจากตลาดแรงงานมากที่สุดได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน โดยประเทศสมาชิกควรกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ใหม่ร่วมกับผู้ที่สามารถเข้าถึงเยาวชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเหล่านี้ (เช่น บริการสังคม ผู้ให้การศึกษา สมาคมเยาวชน)เพื่อให้สามารถเข้าถึงเยาวชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยบริการจัดหางานของรัฐ

เนื่องจาก Youth Guarantee คือการปฏิรูปโครงสร้าง ดังนั้นคณะกรรมาธิการจึงได้เสนอข้อแนะว่าด้วยการดำเนินแผนงาน Youth Guarantee เป็นการเฉพาะสำหรับ 8 ประเทศ ได้แก่ สเปน อิตาลี สโลวะเกีย โครเอเชีย โปรตุเกส โปแลนด์ บัลแกเรีย และไอร์แลนด์ ในปี 2557 ซึ่งประกอบด้วย นโยบายตลาดแรงงานที่มีประสิทธิภาพ การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับบริการจัดหางานของรัฐ แผนการสนับสนุนการฝึกอบรมและฝึกงาน การรับมือกับการออกจากโรงเรียนก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการจัดทำยุทธศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเยาวชน ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้แผน Youth Guarantee บังเกิดผล นอกจากนั้นข้อแนะดังกล่าวยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกมองหาแนวทางแก้ไขปัญหาการแบ่งส่วนของตลาดแรงงานซึ่งเยาวชนเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงด้วย

Youth Guarantee คือการลงทุน

การดำเนินแผน Youth Guarantee ต้องใช้เงินงบประมาณของประเทศสมาชิก (รายงาน ILO-eurozone job crisis ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินแผน Youth Guarantee ในยูโรโซนไว้สูงถึงปีละ 21 พันล้านยูโร หรือ 0.22 %ของ GDP) แต่หากไม่ดำเนินการใดเลยก็จะมีค่าใช้ที่สูงกว่านี้มาก มูลนิธิเพื่อการปรับปรุงความเป็นอยู่และข้อกำหนดการทำงาน (The European Foundation for Living and Working Conditions) ได้ประมาณการความสูญเสียทางเศรษฐกิจของอียูจากการที่เยาวชนนับล้านต้องออกจากงานหรือการศึกษาหรือการฝึกอบรมในแง่ของการจ่ายสิทธิประโยชน์และการสูญเสียผลผลิตไว้สูงถึง 153 พันล้านยูโรในปี 2554 (1.2 เปอร์เซนต์ของ GDP ของ อียู) ความสูญเสียข้างต้นนั้นคือเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายต่อการว่างงานระยะยาว ต่อเศรษฐกิจ สังคม และผู้เกี่ยวข้องทุกคน อันได้แก่ความเสี่ยงต่อการว่างงานในอนาคตและความยากจน ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการไม่ดำเนินการใดเลยนั้นสูงมาก ดังนั้นแผน Youth Guarantee จึงถือเป็นการลงทุน และคณะกรรมาธิการมองว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินแผนงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออียูในการที่จะคงไว้ซึ่งการเติบโตในอนาคต ดังนั้นการสนับสนุนด้านการเงินจึงมีส่วนสำคัญยิ่ง – ที่เห็นชัดที่สุดคือกองทุนเพื่อสังคมแห่งยุโรป (European Social Fund: ESF) และในบริบทของข้อริเริ่มการจ้างงานเยาวชน (Youth Employment Inititative) แต่การทำแผน Youth Guarantee ให้บังเกิดผลนั้น ประเทศสมาชิกจะต้องให้ความสำคัญกับมาตรการการจ้างงานเยาวชนในการจัดทำงบประมาณแห่งชาติด้วย

Youth Guarantee และการสร้างงานในระยะสั้น

นอกจากใช้มาตรการด้านอุปทานเช่น การกระตุ้นด้วยการแนะแนวเรื่องการหางานหรือหลักสูตรการฝึกอบรม แล้ว Youth Guarantee ยังส่งเสริมให้มีการใช้มาตรการเชิงรุกอย่างกว้างขวางเพื่อเพิ่มอุปสงค์แรงงานเยาวชนให้มากขึ้น มาตรการต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างชั่วคราวที่กำหนดเป้าหมายชัดเจน หรือการอุดหนุนด้านการเงินในการคัดเลือก หรือให้การฝึกหัดและฝึกงาน นับเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบูรณาการเยาวชนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และถือว่าเป็นการลงทุนทางสังคมเพื่อช่วยให้เยาวชนสามารถนำทักษะไปใช้ในการผลิตและพัฒนาต่อไป ซึ่งตรงข้ามการว่างงานเรื้อรังและความเฉื่อยชาอันเนื่องจากทักษะที่ถดถอยและขาดซึ่งแรงจูงใจ ดังนั้นการใช้มาตรการด้านอุปสงค์ (demand-side measures) จึงเป็นสิ่งสำคัญหากประสงค์ลดอัตราการว่างงานเยาวชน และลดผู้ไม่มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจที่มีจำนวนสูงในปัจจุบันให้ได้ผล

การสนับสนุนสถานประกอบการโดยตรงเพื่อสร้างงานให้กับเยาวชน

เหตุผลประการหนึ่งที่บริษัทไม่สามารถจ้างเยาวชนได้เป็นจำนวนมากกว่านี้เพราะเยาวชนขาดทักษะและประสบการณ์ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือแม้เยาวชนจะมีทักษะและประสบการณ์ตามที่นายจ้างประสงค์ แต่หน่วยจัดหางานของรัฐในหลายประเทศยังไม่อาจบรรจุผู้มีทักษะและประสบการณ์ได้ตรงกับความต้องการของบริษัท ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้บริษัทสร้างงานให้กับเยาวชน และมีการริเริ่มหลายประการโดยคณะกรรมาธิการ เช่น COSME programme และการสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจจากกองทุน European Structural and Investment Funds กลุ่มวาณิชธนกิจแห่งยุโรป(European Investment Bank Group) และธนาคารกลางยุโรป(European Central Bank) อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีการจัดการเรื่องการอุดหนุนทางการเงินสำหรับการคัดเลือกเยาวชน และการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อปรับปรุงระบบการฝึกอบรม การศึกษาและการหางานทำ การสนับสนุนดังที่ได้กล่าวแล้วก็อาจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขการว่างงานเยาวชน

Youth Guarantee และเศรษฐกิจที่เติบโตช้า

แม้ Youth Guarantee จะช่วยให้มี การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ การมีงานทำเพิ่มขึ้น และสร้างความแตกต่างอย่างเป็นระบบในการพัฒนาการเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนไปสู่การทำงาน แต่หากเศรษฐกิจไม่มีการเติบโตในภาพรวมการปฏิรูปการจ้างงานก็ไม่อาจแก้วิกฤตการว่างงานได้เช่นกัน

การว่างงานของเยาวชนนั้นมีความ อ่อนไหวต่อวัฎจักรทางเศรษฐกิจมากกว่าการว่างงานทั้งหมด เพราะเยาวชนที่ว่างงานโดยรวมคือคนที่มีประสบการณ์น้อย และอาจถูกปลดออกจากงานได้ง่าย รวมทั้งต้องเสี่ยงกับความถดถอยทางเศรษฐกิจมากกว่า เช่นภาคการผลิต การก่อสร้าง ค้าปลีกและภาคบริการ ทั้งนี้หลักฐานจาก 15-20 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานโดยรวมในสหภาพยุโรปลดลงได้ หาก GDP ประจำปีเติบโตมากกว่าร้อยละ 1.5 และอัตราการเติบโตของ GDP ที่สูงเพียงขึ้นเล็กน้อยจะทำให้เยาวชนมีอัตราการว่างงานลดลง แต่ในทางกลับกันหากความเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงต่ำกว่า 1.5 เปอร์เซนต์ก็จะพบว่าเยาวชนมีแนวโน้มที่จะว่างงานเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอัตราการว่างงานในภาพรวม

อย่างไรก็ตามระดับของการว่างงานในเยาวชนนั้นจะได้รับอิทธิพลจากลักษณะโครงสร้างของตลาดแรงงาน อย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน หรือการลงทุนในนโยบายตลาดแรงงาน รวมถึงคุณภาพของระบบการศึกษาและฝึกอบรม ซึ่งในส่วนนี้ Youth Guarantee สามารถสร้างความแตกต่างขนานใหญ่ที่จะนำไปสู่การลดช่องว่างระหว่างอัตราการว่างงานของเยาวชนและการว่างงานทั้งหมดในที่สุด

ประเทศสมาชิกอียู : การดำเนินการตามแผน Youth Guarantee

ปัจจุบันประเทศสมาชิกอียูกำลังดำเนินการตามแผน Youth Guarantee และเริ่มเห็นผลบ้างแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าได้มีการดำเนินการตามแผนนี้ค่อนข้างเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับการปฏิรูปโครงสร้างอื่นในยุโรป โดยสมาชิกทุกประเทศได้ส่งแผนดำเนินงาน Youth Guarantee ภายในเวลาที่คณะมนตรียุโรปกำหนด ซึ่งแผนได้ระบุสิ่งที่ประเทศสมาชิกนั้นต้องกระทำอย่างชัดเจน มีกรอบเวลาการปฏิรูปการจ้างงานเยาวชนและมาตรการต่าง ๆ บทบาทของผู้มีอำนาจของภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ และแนวทางสนับสนุนด้านการเงินและการร่วมทุนโดย ESF และ Youth Employment Initiative ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ทำการประเมินแผนดำเนินงานตามกำหนดระยะการดำเนินงานของยุโรป (European Semester)

ผลที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินแผนงาน Youth Guarantee

ขณะนี้เบลเยี่ยมกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ Youth Guarantee ในบรัสเซลและพบว่าจำนวนเยาวชน (อายุต่ำกว่า 25 ปี) ที่กำลังหางานทำในบรัสเซลส์ช่วงเดือนสิงหาคมมีจำนวนลดลงอันเป็นผลจากยุทธศาสตร์ Youth Guarantee ส่วนสเปนได้ดำเนินระบบการประกันเพื่อเยาวชนระดับชาติ (National Youth Guarantee System) ตามพระราชกฤษฎีกา-กฎหมาย 8/2014 ณ 4 กรกฎาคม ซึ่งระบุขั้นตอนการลงทะเบียนตามแผน Youth Guarantee และแก้ไขหลักเกณฑ์สำหรับผู้ได้รับประโยชน์ รวมทั้งได้รับรองการเพิ่มการอุดหนุนที่มิใช่ค่าจ้างในสัญญาฝึกอบรมหรือการจ้างงานสำหรับผู้ลงทะเบียน Youth Guarantee และ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2014 เยาวชนที่ลงทะเบียนตามระบบสามารถเข้ารับการฝึกอบรมออนไลน์ได้สี่หลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นบริการจัดหางานแห่งสเปน (Spainish Public Employment Service) ยังเรียกร้องให้มีข้อเสนอจัดกิจกรรมฝึกอบรมวิชาชีพ ด้วยงบประมาณทั้งสิ้นเกือบ 42 ล้านยูโรในการจัดฝึกอบรมอาชีพ การอบรมด้าน ICT และหลักสูตรภาษาเพื่อพัฒนาใช้กับเยาวชนที่ลงทะเบียนในระบบ Youth Guarantee ต่อไป

ระหว่างสิงหาคม-ธันวาคม 2556 ได้มีการเปิดตัว 18 โครงการนำร่องขนาดเล็กตามแผน Youth Guarantee โดยการสนับสนุนของคณะกรรมาธิการยุโรป แต่ละโครงการมีระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน ซึ่งได้ดำเนินการในเจ็ดประเทศ (ไอร์แลนด์ อิตาลี ลิธัวเนีย โปแลนด์ โรมาเนีย สเปน และสหราชอาณาจักร) และยังมีโครงการนำร่องใน Bullymun ไอร์แลนด์ซึ่งสนับสนุนเยาวชนประมาณ 1000 คน และกำลังทำการทดสอบผลก่อนนำเข้าสู่การทบทวนแผน Youth Guarantee แห่งชาติของไอร์แลนด์ต่อไป

กองทุน European Social Fund (ESF) : the Youth Guarantee ESF นับเป็นแหล่งเงินที่สำคัญที่สุดของอียูที่ใช้สนับสนุนการดำเนินแผน Youth Guarantee และมาตรการอื่นๆ ในแก้ไขปัญหาการว่างงานเยาวชน ซึ่ง ESF จะจัดสรรเงินให้กว่า 10 พันล้านยูโรทุกปีระหว่างปี 2557-2563

การดำเนินแผน Youth Guarantee ถูกจัดให้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญลำดับสูงใน**ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วน (Partnership Agreements) ซึ่งสมาชิก 16 ประเทศได้รับรองให้ใช้เงินจาก ESF ระหว่างปี 2557-2563 (เดนมาร์ก เยอรมนี โปแลนด์ กรีซ สโลวะเกีย ไซปรัส ลัตเวีย เอสโตเนีย ลิธัวเนีย โปรตุเกส โรมาเนีย บัลแกเรีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เชค ฮังการี) สำหรับข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนกับประเทศสมาชิกอื่นนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการ ————————————————————————————————————

**ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนกัน (Partnership Agreements) เป็นข้อตกลงระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรปกับประเทศสมาชิกอียูแต่ละประเทศเพื่อกำหนดแผนระดับประเทศ (national authorities’ plans) ว่าจะใช้เงินจาก ESF อย่างไรระหว่างปี 2557-2563 โดยแผนนั้นจะกำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์และลำดับความสำคัญของด้านที่จะต้องลงทุนโดยเชื่อมโยงกับเป้าหมายโดยรวมของยุทธศาสตร์ยุโรป 2563 เพื่อให้มีความเติบโตอย่างชาญฉลาด smart growth ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำ (inclusive growth) ———————————————————————————————————–

เรียบเรียงจาก:

http://www.eubusiness.com/topics/employment/youth-guarantee/EU Youth Guarantee ณ วันที่ 16 กันยายน 2557 http://ec.europa.eu/social/main.jsp?catId=1079 http://ec.europa.eu/regional_policy/what/future/program/index_en.c

 

                                                        —————————————–


444
TOP