ระบบประกันสังคมของเยอรมนี บทที่ 10 การประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน
ผู้ประกันตน
หากเป็นผู้ได้รับการว่าจ้างงานหรือฝึกอบรมก็จะได้รับการคุ้มครองประกันอุบัติเหตุโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีเงินได้เท่าใด
กฎหมายประกันอุบัติเหตุในการทำงานจะครอบคลุม
- ชาวนา
- เด็กที่ถูกส่งเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กหรืออยู่ในความดูแลของผู้ให้บริการรับเลี้ยงเด็กกลางวันที่เหมาะสม
- นักเรียน
- นักศึกษา
- ผู้ที่ช่วยเหลือในเหตุอุบัติเหตุ
- เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- ผู้บริจาคโลหิตและอวัยวะ
- ผู้ดูแลบ้าน
- อาสาสมัครในกิจกรรมที่กำหนด
เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ที่ไม่ต้องประกันตนตามกฎหมายหรือตามระเบียบของกองทุนประกันความรับผิดของนายจ้าง สามารถขอรับความคุ้มครองตามความสมัครใจให้กับตนเองและคู่สมรสในกรณีที่คู่สมรสทำงานอยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ มีกฏว่าด้วยการประกันอุบัติเหตุในการทำงานเป็นการเฉพาะให้กับข้าราชการ
สิทธิประโยชน์และเงื่อนไกฎหมายคุ้มครองอุบัติเหตุจากการทำงานจะคุ้มครองผู้ประกันตนและครอบครัวต่อผลที่ตามมาจากอุบัติเหตุในการทำงาน ความเจ็บป่วยอันเนื่องจากการทำงาน และอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดจากงานที่เกิดขึ้นกับผู้ประกันตน
กฎหมายประกันอุบัติเหตุจากการทำงานจะคุ้มครองในกรณีที่มีอุบัติเหตุในการทำงานหรือความเจ็บป่วยในการทำงานดังนี้
- จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด
- ความช่วยเหลือเพื่อให้บูรณาการในการทำงาน (รวมถึงการอบรมใหม่หากจำเป็น)
- ความช่วยเหลือเพื่อให้บูรณาการสู่สังคมและความช่วยเหลือเสริม
- สิทธิประโยชน์เป็นเงินสดแก่ผู้ประกันตนและผู้อยู่ในอุปการะ
การประกันอุบัติเหตุจากการทำงานนี้จะคุ้มครองผู้ประกันตนโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นผู้ทำผิดหรือไม่ ความรับผิดสำหรับความเสียหายตามกฎหมายทั้งของนายจ้างและลูกจ้างจะถูกโอนไปยังการประกันอุบัติเหตุในการทำงาน
การประกันจะครอบคลุมผู้ประกันตนตราบเท่าที่ผู้ประกันตนได้ดำเนินกิจกรรมที่ได้รับการประกัน หรือเดินทางไปหรือกลับจากการทำงาน และหากเป็นผู้อาศัยรถรวมกัน (car pool) ก็จะได้รับการคุ้มครองในการเดินทางไปและกลับจากงาน แม้ว่าการเดินทางไปยังสถานที่ทำงานจะไม่ได้ใช้เส้นที่ทางตรงที่สุดก็ตาม
หากเป็นผู้ประกันตน สามารถเรียกร้องสิทธิได้ดังนี้
การรักษาพยาบาล
หากได้รับอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยจากการทำงาน ประกันอุบัติเหตุจากการทำงานจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล วัสดุตกแต่งแผล การบำบัด หรือความช่วยเหลือต่างๆ การรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือในศูนย์ฟื้นฟูโดยไม่กำหนดระยะเวลา
สิทธิประโยชน์เมื่อได้รับบาดเจ็บ
ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในช่วงที่ไม่สามารถทำงานและนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง สิทธิประโยชน์เมื่อเจ็บป่วยจะอยู่ที่ 80 เปอร์เซนต์ของค่าจ้างได้รับก่อนหักภาษีซึ่งผู้ประกันตนต้องสูญเสียค่าจ้างไปอันเนื่องจากอุบัติเหตุ ซึ่งอัตราสูงสุดที่จะได้รับคือค่าจ้างสุทธิหลังหักภาษี โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อบาดเจ็บเป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 78 วัน
ความช่วยเหลือในการบูรณาการสู่วิชาชีพ
หากผู้ประกันตนไม่สามารถกลับไปทำงานที่เคยทำเพราะอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยจากการทำงาน ก็จะสามารถขอรับความช่วยเหลือทางอาชีพได้ ซึ่งความช่วยเหลือนี้ก็เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถทำงานที่เคยทำได้หรือได้ทำงานใหม่ และหากไม่ได้ผล ผู้ประกันตนก็สามารถเข้ารับการฝึกอบรมใหม่ โดยได้รับเบี้ยเลี้ยงช่วงเปลี่ยนผ่านงาน แต่หากผู้ประกันตนมีรายได้จากการทำงานในช่วงนี้ ก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงลดลงตามสัดส่วน
ความช่วยเหลือในการบูรณาการทางสังคมและความช่วยเหลือเสริม
เป็นสิทธิประโยชน์ที่รวม ด้านการเงินสำหรับผู้ประกันตนในการดัดแปลงรถหรือบ้านให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการ ด้านความช่วยเหลือทางครอบครัว ด้านการให้คำแนะนำทางจิตสังคม ด้านการกีฬาเพื่อฟื้นฟู ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มจากการรักษาทางการแพทย์และการช่วยเหลือเพื่อบูรณาการสู่งาน ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของการเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บที่ต้องได้รับความช่วยเหลือนี้
บำนาญสำหรับผู้ประกันตน
ผู้ประกันตนจะได้รับบำนาญนี้ หากอุบัติเหตุในการทำงานและความเจ็บป่วยจากการทำงานทำให้ความสามารถในการหารายได้ลดลงอย่างต่ำ 20 เปอร์เซนต์ นานถึง 26 สัปดาห์ (อย่างต่ำ 30 เปอร์เซนต์ ในกรณีที่ทำงานด้านเกษตรกรรม ทำงานด้วยกันกับคู่สมรส หรือคู่ครอง และสมาชิกในครอบครัวในสาขาเกษตรกรรม) บำนาญที่จะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกันตนมีความสามารถในการหารายได้ลดลงเพียงไรและขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่หาได้ใน 12 เดือนตามปฏิทินก่อนเกิดอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยจากการทำงานจะมีการปรับอัตราบำนาญสำหรับผู้ประกันตนภายใต้แผนประกันอุบัติเหตุจากการทำงานเป็นประจำทุกปีเช่นเดียวกับบำนาญชราภาพ
เบี้ยเลี้ยงในการดูแลรักษาพยาบาล
ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการดูแลรักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากการทำงาน เบี้ยเลี้ยงใน การดูแลรักษาพยาบาล และหากจำเป็นก็จะได้รับการดูแลที่บ้านพักเพิ่มเติมจากบำนาญบาดเจ็บของผู้ประกันตน
เบี้ยเลี้ยงในการฌาปนกิจศพ
หากผู้ประกันตนถึงแก่กรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจากการทำงานหรือความเจ็บป่วยจากการทำงาน ผู้อยู่ในอุปการะจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงในการฌาปนกิจศพหนึ่งในเจ็ดของระดับรายได้อ้างอิงในช่วงที่ถึงแก่กรรม (ระดับรายได้อ้างอิงคือระดับรายได้เฉลี่ยจากการทำงานที่ประเมินเพื่อการประกันบำนาญตามกฎหมาย)
บำนาญสำหรับผู้อยู่ในอุปการะ
หากคู่สมรสถึงแก่กรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจากงานหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน ประกันอุบัติเหตุจากการทำงานของผู้ประกันตนจะจ่ายบำนาญสำหรับผู้อยู่ในอุปการะให้แก่ผู้ประกันตน (จนกว่าจะสมรสใหม่) โดยอัตราบำนาญจะพิจารณาจากอายุ ความสามารถในการหาเงินได้ หรือความสามารถในการทำงาน และจำนวนบุตรของผู้ประกันตน ตัวอย่างเช่น ผู้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่งจะได้รับเงินบำนาญสำหรับผู้อยู่ในอุปการะ 40 เปอร์เซนต์ของเงินได้ประจำปีก่อนหักภาษีของคู่สมรสที่ถึงแก่กรรม
- อายุ 45 ปีหรือมากกว่าและคู่สมรสถึงแก่กรรมก่อน 1 มกราคม 2555
- เป็นผู้มีความสามารถในการหาเงินได้ลดลง พิการหรือทุพพลภาพจากการทำงาน
- มีบุตรอย่างน้อย 1 คนที่มีสิทธิจะได้รับบำนาญบุตรกำพร้า
หากคู่สมรสถึงแก่กรรมหลัง 31 ธันวาคม 2554 ก็จะเพิ่มอายุที่จำกัดไว้เดิม 45 ปีเป็น 47 ปี เนื่องจากเป็นระยะดำเนินการ ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มอายุของผู้อยู่ในอุปการะภายใต้แผนบำเหน็จบำนาญ
แต่หากอายุไม่ถึง 45 ปี (และ 47 ปี) และไม่มีบุตร จะมีสิทธิได้บำนาญ 30 เปอร์เซนต์ของรายได้ประจำปีก่อนหักภาษีของคู่สมรสที่ถึงแก่กรรมเป็นเวลาสองปี สำหรับกรณีที่ถึงแก่กรรมก่อน 1 มกราคม 2546 และสำหรับกรณีที่สมรสกันก่อน 1 มกราคม 2546 โดยที่ในขณะนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอายุอย่างน้อยที่สุด 40 ปี จะมีสิทธิได้รับบำนาญจากเดิมสองปี จะถูกขยายออกไปอย่างไม่มีกำหนด (หากไม่สมรสใหม่)
หากเป็นผู้อยู่ในอุปการะซึ่งมีรายได้จากการทำงานหรือบำนาญอื่นๆ ก็จะถูกหักบำนาญผู้อยู่ในอุปการะ 40 เปอร์เซนต์ หลังจากการหักเบี้ยเลี้ยงตามค่าครองชีพแล้ว (ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนบุตรที่มีสิทธิรับบำนาญบุตรกำพร้า)
บำนาญสำหรับบุตรกำพร้า
หากผู้ประกันตนถึงแก่กรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจาการทำงานหรือความเจ็บป่วยจากการทำงาน บุตรที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทุกคนก็จะได้รับบำนาญสำหรับบุตรกำพร้า โดยประกันอุบัติเหตุจากการทำงานจะจ่ายเงินบำนาญให้ 20 เปอร์เซนต์ของรายได้ประจำปีก่อนหักภาษีให้กับบุตรที่ยังเหลือผู้ปกครองอีกหนึ่งคน และ 30 เปอร์เซนต์หากกำพร้าทั้งบิดามารดา
เงินบำนาญบุตรกำพร้าจะจ่ายให้กับบุตรที่อายุเกิน 18 ปี (เป็นช่วงที่ตัดความช่วยเหลือตามปกติ) ไปจนถึง 27 ปีหากบุตรกำพร้านั้น
- กำลังเรียนหรือฝึกอบรมวิชาชีพ
- ทำงานสังคมโดยสมัครใจหรือทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยสมัครใจตามกฎหมายเกี่ยวกับงานอาสาสมัครโดยผู้เยาว์หรือบริการภายใต้บริการอาสาสมัครของสหพันธ์ฯ
- ไม่สามารถช่วยตัวเองเนื่องจากมีความบกพร่องทางกาย สติปัญญาและจิตใจ
สำหรับบำนาญผู้อยู่ในอุปการะนั้น หากเป็นบุตรกำพร้าที่อายุ 18 ปีหรือมากกว่าและหากมีรายได้ ก็จะถูกหักเงิน เงินบำนาญบุตรกำพร้า 40 เปอร์เซนต์ หลังจากหักเงินที่ปรับตามค่าครองชีพแล้ว
หากมีการให้เงินบำนาญสำหรับผู้เป็นหม้ายและเงินบำนาญสำหรับผู้เป็นกำพร้าแก่ครอบครัวหนึ่งเกิน 80 เปอร์เซนต์ของรายได้ต่อปีก่อนหักภาษีของผู้ถึงแก่กรรม ก็จะมีการหักลดตามลำดับ
การจ่ายเงินก้อน
หากคาดว่าผู้ประกันตนจะไม่สามารถฟื้นฟูสมรรถนะในการหารายได้ ผู้ประกันตนก็อาจขอรับเงินบำนาญเป็นก้อนได้ ซึ่งมีขั้นตอนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าสมรรถนะในการหารายได้นั้นลดลงน้อยกว่าหรือมากกว่า 40 เปอร์เซนต์ หาก 40 เปอร์เซนต์ ก็จะมีการให้เงินก้อนเดียวเพื่อให้ใช้ตลอดชีพ ซึ่งก็คือจะได้รับเงินบำนาญเป็นเงินก้อนครั้งเดียว โดยไม่มีการจ่ายเงินบำนาญอีก ยกเว้นเสียแต่ว่าผู้ประกันตนมีสุขภาพทรุดโทรมอย่างมากอันเป็นผลจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากการทำงาน ผู้ประกันตนก็จะได้รับรับเงินบำนาญก้อนใหญ่ขึ้น การจะได้รับเงินเท่าใดนั้นจะเป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลสหพันธ์ฯ โดยคำนึงถึงอายุผู้ประกันตนและเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
หากผู้ประกันตนมีอายุ 18 ปีหรือมากกว่า และภายหลังได้รับอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงานแล้ว มีความสามารถในการหารายได้ลดลง 40 เปอร์เซนต์หรือกว่านั้น ผู้ประกันตนก็สามารถขอรับบำนาญแบบแยกส่วนได้ กล่าวคือสามารถขอรับบำนาญจำนวนครึ่งหนึ่งที่ควรได้รับในระยะเวลา 10 ปีเป็นเงินก้อน (ต้องไม่เกินเก้าเท่าของบำนาญแต่ละครึ่งปีที่จะได้รับ) และรับบำนาญเพียงครึ่งหนึ่งในช่วงสิบปีแรกที่มีสิทธิ และประกันอุบัติเหตุจากการทำงานจะเริ่มจ่ายบำนาญให้ผู้ประกันตนในปีที่ 11
การให้ทุน
กองทุนการประกันความรับผิดของนายจ้างจะประกันอุบัติเหตุตามกฎหมายสำหรับภาคการพาณิชย์และเกษตร โดยนายจ้างเป็นผู้จ่ายเงินสมทบกองทุน และ กองทุนความรับผิดนายจ้างในภาคการเกษตรจะได้รับเงินช่วยจากสหพันธ์ฯ จำนวนที่นายจ้างจะสมทบขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่ายให้ลูกจ้างรายปี และระดับความเสี่ยงของนายจ้าง ลูกจ้าง เด็กที่เรียนในโรงเรียน นักเรียน ฯลฯ ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบ
กฎหมาย
กรอบกฎหมายสำหรับการประกันอุบัติเหตุตามกฎหมายจะอยู่ใน Book VII (SGB VII) ของ Social Code ทั้งนี้กฎหมายและระเบียบอื่นที่ใช้จะรวม Social Code Book IX และระเบียบว่าด้วยความเจ็บป่วยจากงานด้วย
ที่มา: เรียบเรียงจากคู่มือประกันสังคม Social Security at a Glance 2014 ของกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมแห่งสหพันธ์ฯ
—————————————————-
ข่าวแรงงาน ลำดับที่ 40 /2559
ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน