Skip to main content

หน้าหลัก

ระบบประกันสังคมของเยอรมนี บทที่ 19 ความช่วยเหลือทางสังคม

กฎระเบียบใหม่และหลักการด้านความช่วยเหลือทางสังคม
วัตถุประสงค์ของการให้ความช่วยเหลือทางสังคมของเยอรมนีนั้นคือเพื่อให้ผู้มีสิทธิทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  เมื่อมีรายได้และเงินเก็บไม่เพียงพอ บริการความช่วยเหลือทางสังคมจะช่วยดูแลด้านความต้องการขั้นต่ำเพื่อให้มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สังคมยอมรับได้  และยังให้การชดเชยแก่ผู้พิการ ผู้ที่ต้องการการพยาบาล หรือผู้ประสบความยากลำบากในสังคม ให้สามารถอยู่ในชุมชนได้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้  เพื่อให้คงไว้ซึ่งมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สังคมยอมรับได้  และยังมุ่งที่การชดเชยตามความจำเป็นสำหรับผู้มีอุปสรรค เช่น ผู้พิการ ผู้ต้องการการพยาบาล หรือผู้ที่ประสบความยากลำบากทางสังคมอย่างมากเพื่อให้อยู่ในชุมชนต่อไปได้ โดยเยอรมนีได้ออกระเบียบใหม่ในการให้ความช่วยเหลือทางสังคมในสถานการณ์เฉพาะเจ็ดประการแทนที่จะให้เฉพาะค่าครองชีพและความช่วยเหลือในสถานการณ์พิเศษเช่นในอดีต 

หลักการให้ความช่วยเหลือทางสังคมคือ เน้นให้คนสามารถช่วยตนเองและไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือให้มากที่สุด โดยให้ผู้ขอรับความช่วยเหลือเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งการให้ความช่วยเหลือจะครอบคลุมหลักการดังนี้ 

  • ให้ความช่วยเหลือให้ตรงกับความต้องการ โดยพิจารณาจากสถานการณ์ ความประสงค์ และความสามารถของบุคคล
  • การช่วยเหลือถือเป็นสิทธิประโยชน์รอง จึงจะยังไม่ให้ความช่วยเหลือจนกว่าผู้ขอรับจะใช้ทรัพยากรอื่นของตนหมดไปแล้ว ฉะนั้นจึงต้องให้ผู้ขอรับความช่วยเหลือใช้ความสามารถในการหาเงินได้หรือใช้สิทธิของผู้รับความช่วยเหลือที่อาจมีจากการประกันหรือระบบสวัสดิการอื่นเสียก่อน
  • เมื่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือทางสังคมรับทราบว่า บุคคลอยู่ในข่ายที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ ก็จะดำเนินการให้ในทันทีโดยไม่ต้องยื่นขอรับความช่วยเหลือ
  • ความช่วยเหลือเน้นสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงิน และรวมถึงการให้คำปรึกษา การช่วยเหลือให้อยู่ในชุมชน และการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ใด (SGBXII มาตรา 11)
  • ให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือที่มิใช่เชิงสถาบันมากกว่าเชิงสถาบัน  ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเชิงสถาบันจะขึ้นกับผลประเมินความต้องการ ทางเลือก และค่าใช้จ่าย 
  • การให้บริการเสริมในรูปของคำปรึกษาและการสนับสนุนด้านต่างๆ จะช่วยให้คนสามารถช่วยตนเองและมีส่วนร่วมในชุมชนได้

การปฏิรูปความช่วยเหลือทางสังคม: สิ่งท้าทายใหม่และการปรับโครงสร้างตามกฎหมาย

พระราชบัญญัตติว่าด้วยความช่วยเหลือทางสังคมแห่งสหพันธ์ฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2505 โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนเป็นการชั่วคราวแก่บางกลุ่มเป็นการเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุที่มีบำนาญต่ำ ความยากจนและแม้จะมีความยากจนในกลุ่มผู้สูงอายุลดลง แต่พบว่ามีปัญหาอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้แก่

  • การว่างงานจำนวนมาก : การว่างงานระยะยาว แรงงานต่างชาติฝีมือต่ำ และการเพิ่มจำนวนของคนหนุ่มสาวว่างงานซึ่งต้องการความช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพ
  • ความมั่นคงของครอบครัวที่ลดลง  ทำให้ต้องมีการให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
  • มีกลุ่มผู้อพยพจากเหตุลี้ภัย สงครามกลางเมือง คนจากยุโรปตะวันออกและแรงงานต่างด้าวตกงานซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่ขอรับความช่วยเหลือ
  • ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของประชากร ทำให้มีผู้ที่ต้องพึ่งความช่วยเหลือในการพยาบาลเพิ่มมากขึ้น
  • จำนวนผู้พิการที่เพิ่มมากขึ้น

จากปัญหาข้างต้น เยอรมนีจึงได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยความช่วยเหลือทางสังคมแห่งสหพันธ์ฯ เสียใหม่ และออกกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของผู้ลี้ภัยซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2536  และกฎหมายว่าด้วยการประกันการดูแลระยะยาวในปี 2538 และในปี 2544  Book IX Social Code ได้จำแนกการให้สิทธิประโยชน์ใหม่ และแยกประเภทการขอรับสิทธิ โดยพิจารณาจากสถานการณ์ของบุคคลแต่ละราย

ประเภทของความช่วยเหลือทางสังคมจะครอบคลุมใน 7 ด้านได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ
  • เงินเสริมบำนาญอิงความต้องการในวัยชราและในกรณีของความสามารถในการหาเงินได้ลดลง
  • การดูแลสุขภาพ
  • การบูรณาการความช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ
  • การพยาบาล
  • การช่วยเหลือให้พ้นความยากลำบากทางสังคม
  • การช่วยเหลือในสถานการณ์อื่น

บทต่างๆ ใน SGBXII

บทที่ 3: การช่วยค่าใช้จ่ายในการครองชีพ
มักให้กับผู้ที่อาศัยที่บ้าน คู่สมรสที่พักอยู่ด้วย หรือคู่ครองตามกฎหมายและบุตรที่ยังเล็กซึ่งพักอาศัยในบ้านเดียวกัน โดยรวมค่าใช้จ่ายเรื่อง อาหาร ที่พัก เครื่องนุ่งห่ม และอื่นๆ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการมีส่วนร่วมในสังคมและวัฒนธรรมด้วย ในอัตราดังนี้

อัตรามาตรฐาน ณ วันที่ 1 มกราคม 2558

  • อัตรามาตรฐาน 1: 399 ยูโร

 สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสิทธิรับความช่วยเหลือในฐานะที่เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวและหากอยู่รวมกับผู้ใหญ่  

 จำนวนหนึ่งคนหรือมากกว่าซึ่งอยู่ในอัตรามาตรฐาน 3 

  • อัตรามาตรฐาน 2: 360 ยูโร

   ต่อคนสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือในการจัดการงานบ้านที่อยู่รวมกันในฐานะคู่

   สมรส หรือคู่ครองตามกฎหมายหรือมีระดับความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน

  • อัตรามาตรฐาน 3: 320 ยูโร

     สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสิทธิได้ความช่วยเหลือซึ่งไม่ได้จัดการงานบ้านของตนเองและไม่ได้อยู่รวมในบ้าน

     ในฐานะคู่สมรส หรือคู่ครองตามกฎหมายหรือมีระดับความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน

  • อัตรามาตรฐาน 4: 302 ยูโร

   สำหรับวัยรุ่นที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือที่อายุตั้งแต่ 15-18 ปี

  • อัตรามาตรฐาน 5: 267 ยูโร

   สำหรับเด็กที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตั้งแต่อายุ 7-14 ปี

  • อัตรามาตรฐาน 6: 234 ยูโร

     สำหรับเด็กที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตั้งแต่อายุ 6 ปีขึ้นไป

คนเยอรมันที่อาศัยอยู่ต่างประเทศไม่สามารถรับความช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพได้หากมิได้อยู่ในสภาวะที่ฉุกเฉินหรือมีเหตุผลเฉพาะที่ทำให้ไม่สามารถกลับเยอรมนีได้

แพ็คเกจใหม่ว่าด้วยการศึกษา
แพ็คเกจใหม่ด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนที่เรียนในระบบการศึกษาปกติหรือโรงเรียนวิชาชีพจะรวม

  • ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวข้างนอกแบบไปเช้าเย็นกลับกับทางโรงเรียน
  • ความช่วยเหลือสำหรับการออกทริปหลายวันกับโรงเรียน
  • ความช่วยเหลือของใช้ส่วนตัวสำหรับโรงเรียน  (70 ยูโรสำหรับปีการศึกษาครึ่งแรกและ 30 ยูโรสำหรับปีการศึกษาครึ่งหลัง)
  • ค่าเดินทางไป/กลับโรงเรียน หากจำเป็นและไม่ได้รับจากแหล่งอื่น
  • ความช่วยเหลือในการสนับสนุนการเรียนรู้ในสถานการณ์เฉพาะ
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารในโรงเรียน
  • งบสำหรับการเข้าร่วมงานทางสังคมหรือวัฒนธรรมเดือนละ 10 ยูโร

บทที่ 4  เงินเสริมบำนาญตามความจำเป็นสำหรับวัยชราและในกรณีที่ความสามารถในการหาเงินได้ลดลง (SGBXII, มาตรา 41-46a)
ภายใต้บทที่ 4 SGBXII ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่สูญเสียความสามารถในการหาเงินได้ซึ่งลดลงอย่างสิ้นเชิงจากสาเหตุทางการแพทย์จะมีสิทธิได้รับเงินเสริมบำนาญหากมีความจำเป็นและมีถิ่นที่อยู่ในเยอรมนี  โดยต้องมีการยื่นคำร้อง  เงินนี้จะให้หนึ่งปีต่อครั้ง  โดยจะพิจารณาการให้เงินเสริมจากเงินได้เช่นบำนาญและทรัพย์สินของผู้ขอรับเงิน คู่สมรสหรือคู่ครองตามกฎหมาย (หากไม่ได้แยกกันอยู่) หรือผู้ที่อยู่กินร่วมกันกับผู้ขอรับเงิน 

บทที่ 5  ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ (SGBXII, มาตรา 47-52)
ผู้รับความช่วยเหลือทางสังคมที่ไม่มีประกันสุขภาพจะได้รับการดูแลเช่นเดียวกับผู้ที่จ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสุขภาพ โดยกองทุนประกันสุขภาพจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้รับความช่วยเหลือทางสังคมที่มิได้เป็นผู้ประกันตนและจะเบิกคืนในภายหลัง  

ผู้ขอรับความช่วยเหลือทางสังคมที่ไม่มีประกันสุขภาพจะเลือกกองทุนประกันสุขภาพหนึ่งกองทุนที่ได้รับมอบอำนาจ และกองทุนประกันสุขภาพจะให้บัตรประกันสุขภาพแก่ผู้รับความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลเมื่อจำเป็น ซึ่งแพทย์และผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะรับทำการรักษาให้เช่นผู้ป่วยที่มีประกันตน

สำนักงานช่วยเหลือทางสังคมจะจ่ายค่าดูแลสุขภาพแก่กองทุนประกันสุขภาพ  โดยที่ผู้รับความช่วยเหลือทางสังคมจะต้องจ่ายเงินสมทบส่วนของผู้ป่วยตามที่ประเมินไว้ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล

บทที่ 6  ความช่วยเหลือด้านการบูรณาการให้แก่ผู้พิการ (SGBXII, มาตรา 53-60)
มีเป้าหมายเพื่อป้องกัน ฟื้นฟู และบูรณาการ โดยมุ่งป้องกันมิให้เกิดความพิการ หรือเพื่อขจัดหรือบรรเทาผลที่ตามมา  และบูรณาการผู้พิการเข้าสู่ชุมชน ซึ่งผู้ที่เสี่ยงว่าจะมีความบกพร่องทางกาย หรือจิตใจ มีสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือ  

บทที่ 7  ความช่วยเหลือด้านการดูแลพยาบาล (SGBXII, มาตรา 61-66)
การนำประกันการดูแลระยะยาวมาใช้นั้นได้ลดภาระการช่วยเหลือทางสังคมในการดูแลพยาบาลอย่างมาก  ระบบอิงประกันใหม่นี้ได้ให้สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลที่บ้าน การดูแลในสถาบันบางเวลา และการดูแลระยะสั้นมาตั้งแต่เมษายน 2538 และสิทธิประโยชน์การดูแลในสถาบันมาตั้งแต่กรกฎาคม 2539

บทที่ 8  ความช่วยเหลือให้สามารถแก้ไขปัญหาทางสังคมพิเศษ (SGBXII, มาตรา 67-69)
การช่วยให้แก้ไขปัญหาสังคมพิเศษนั้นมีให้กับผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาความยุ่งยากเป็นพิเศษ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไร้บ้านและปัญหาที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 9  ความช่วยเหลือในสถานการณ์อื่นๆ (SGBXII, มาตรา 70-74)
บทนี้จะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ การให้ความช่วยเหลือในการดูแลบ้าน การช่วยเหลือคนชราการช่วยเหลือคนตาบอด ค่าทำศพ และอื่นๆ ซึ่งไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ระเบียบอื่น ๆ

นอกจากนี้ SGBXII ยังมีบทต่าง ๆ ว่าด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ  รายได้และทรัพย์สิน การขอรับค่าบำรุงรักษา  ความรับผิดชอบ  การชำระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับความช่วยเหลือใหม่ การโอนระหว่างหน่วยงาน ระเบียบขั้นตอน  สถิติ และบทสรุป

ข่าวแรงงาน ลำดับที่ 58 /2559

ที่มา: เรียบเรียงจากคู่มือประกันสังคม Social Security at a Glance 2015 ของกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมแห่งสหพันธ์ฯ

—————————————————-

ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน

 

 

 


684
TOP