นาย Andreas Storm ผู้อำนวยการสำนักนโยบาย กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ได้สรุปสถานการณ์ภาวะตลาดแรงงานและนโยบายของประเทศสหพันธ์ฯ ดังนี้
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเทศสหพันธ์ฯผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ด้วยดี หลังจากที่มูลค่าผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศปี 2552 ลดลงกว่าร้อยละ 4.72 มูลค่าผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศของปี 2553 และตัวเลขกำลังการซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ด้านตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2554 คาดว่าจะเป็นร้อยละ 2.3
ตัวเลขการจ้างงานโดยรวมภายในประเทศค่อนข้างดี โดยตัวเลขคนว่างงานลดลงจากเดือนมกราคมปี 2553 คิดเป็นร้อยละ 8.6 หรือประมาณ 3.6 ล้านคน เมื่อเทียบกับตัวเลขคนว่างงานในเดือนมกราคม 2554 คิดเป็นร้อยละ 7.9 หรือประมาณ 3.34 ล้านคน
มาตรการการช่วยเหลือคนงานและภาคธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมาคือการจ้างงานระยะสั้น ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราว โดยจำนวนคนงานที่ทำงานระยะสั้นที่ผ่านมามีจำนวน 1.5 ล้านคน ซึ่งจำนวนคนงานดังกล่าวขณะนี้ได้ลดลง
ตลาดแรงงาน
นโยบายตลาดแรงงานของประเทศสหพันธ์ฯ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆแล้ว อยู่ในเกณฑ์ดี แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มในระยะยาวของตลาดแรงงาน คือ แรงงานมีอายุมากขึ้น (อายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป) และการพยายามหาแรงงานที่มีคุณสมบัติสูง ดังนั้นหัวใจหลักของนโยบายคือ การแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
สาเหตุของการปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรที่อัตราการเกิดลดลงและประชากรอายุยืนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะ 30 ปีที่ผ่านมา อัตราเกิดลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง คาดว่า ในอีก 10 ปี ข้างหน้า ประชากรจะลดลงเหลือ 79 ล้านคน จากปัจจุบันตัวเลขประชากรจำนวน 82 ล้านคน ตัวเลขอัตราผู้สูงอายุ (อายุ 64 ปี ขึ้นไป) ต่อ คนอายุวัยทำงาน เทียบเป็นอัตรา 1 ต่อ 3 ในปัจจุบัน แต่อีก 20 ปี ข้างหน้า อัตรานี้ จะเปลี่ยนเป็น 1 ต่อ 2
เมื่อจำนวนประชากรเกิดลดลงและประชากรมีอายุมากขึ้น นำไปสู่ปัญหาการบริหารเงินกองทุนประกันสังคมต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้วางแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ดังนี้
1. การเพิ่มเกณฑ์อายุการเกษียณอายุ อันเนื่องจากแรงกดดันจากปัญหาการบริหารกองทุนประกันสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนบำนาญ ซึ่งมาตรการนี้ได้วางแนวทางแก้ไขและได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน โดย เพิ่มเกณฑ์อายุการเกษียณจาก 65 ปี เป็น 67 ปี ลดจำนวนผู้ขอเกษียณอายุก่อนกำหนด และการปรับอัตราเงินสมทบกองทุนบำนาญ
2. เนื่องมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทางกระทรวงแรงงานฯร้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากผู้ประกอบกิจการ เพราะคนงานที่เป็นกำลังแรงงานในปัจจุบัน มีอายุประมาณ 50 ปี เป็นส่วนมาก นอกจากนี้แรงงานที่อายุน้อยก็ควรปรับตัวเองให้เข้ากับตลาดแรงงาน ซึ่งหมายความว่าเยาวชนหรือกำลังแรงงานที่อายุน้อยเหล่านี้ต้องมีความพร้อมด้านคุณสมบัติมากขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะช่วยเหลือให้เยาวชนได้จบการศึกษาหรือเรียนจบหลักสูตรฝึกอาชีพมากขึ้น
3. นอกจากนี้ประชากรที่มีอพยพเข้ามาในประเทศสหพันธ์ฯมีประมาณ 16 ล้านคน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะให้คนกลุ่มนี้มีคุณสมบัติและสามารถเข้าถึงตลาดแรงงานของประเทศ เพื่อลดอัตราการว่างงานของประชากรในกลุ่มนี้เช่นกัน
4. นโยบายในระดับภูมิภาคและการทำงานของกระทรวงในระดับภูมิภาคและสหภาพยุโรป ทางรัฐบาลกลางได้วางนโยบาย Europa 2020 โดยมีเป้าหมายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) ที่จะลดความยากจนและลดอัตราการว่างงานของกลุ่มคนว่างงานระยะยาวในประเทศลงร้อยละ 20 โดยเทียบจากปี 2551
5. นอกจากนี้นโยบายการอนุญาตคนงานจากประเทศสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรป 8 ประเทศ (เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อ 2547) เข้าทำงานในภาคเกษตรกรรมหรือภาคอุตสาหกรรมการทำความสะอาดในประเทศสหพันธ์ฯได้ โดยจะเริ่มอนุญาตในวันที่ 1 พ.ค. 2554 ซึ่งทางกระทรวงจะจัดสัมมนาหรือการประชุมต่างๆเพื่อให้ข้อมูลในด้านนี้แก่ผู้สนใจ